การผันตัวเข้าสู่วงการสร้างสรรค์แอลกอฮอล์ของเหล่าคนดัง

 เราอยากพูดให้ฟังว่าเมืองนอกเมืองนาเขาไปถึงในกันแล้วสำหรับวงการแอลกอฮอล์ ก็แน่สิ ในอีกฟากของโลกที่การดื่มสุราเป็นเรื่องของศิลปะการใช้ชีวิต ผูกโยงกับเม็ดเงินมหาศาลที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คนดังที่มีชื่อเสียงมาจากทั้งงานด้านแฟชั่น ดนตรี และภาพยนตร์ต่างก็หันมาเอาดีเรื่องการ ‘ขายเหล้า’ กันก็ไม่น้อย จนเกิดศัพท์ติดหูที่เรียกว่า ‘Celebrity-Backed Alcohol Brand’ คนดังคนนั้นจะเป็นเจ้าของผู้มีส่วนร่วมคิดค้นสูตรน้ำเมานั้นเองจริงๆ หรือจะแค่อนุญาตให้นำชื่อนำหน้าของเขาและเธอมาแปะบนขวดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนคนดังคนไหนที่หันมาเดินสายนี้แล้วบ้างมาดูกัน

     เมิร์ต อะลาส (Mert Alas) หนึ่งใน Mert and Marcus คู่ดูโอช่างภาพชื่อดังแห่งวงการแฟชั่น ซึ่งหลังๆ ผู้คนเริ่มติดตามพวกเขามากขึ้นจากแง่มุมเซ็กซี่ในอินสตาแกรม รู้ไหมว่าตอนนี้เขาคนนี้มีแบรนด์เหล้าจินของตัวเองแล้วและขวดก็ดีไซน์เรียบหรูเสียราวกับเป็นขวดน้ำหอม (สารภาพว่านึกถึงขวดน้ำหอมคอลเล็กชั่นล่าสุดของ Celine ทันที)

     “ผมรักจิน! และผมก็หมกมุ่นกับเรื่องราวของจิน จนอยากไปสมัครเป็นนักวิจารณ์คุณภาพจินให้รู้แล้วรู้รอด” 

     นี่คือเหตุผลที่เขาบอกเมื่อใครต่อใครเอ่ยปากถามถึง Seventy One Gin เขาใช้เวลาร่วม 4 ปีพัฒนาจนได้จินขวดสวยที่เราขอบอกตรงๆ ว่า ใช้วางเป็น ‘Objet’ โชว์เทียบกับงานศิลปะในบ้านได้เลย ไม่เหมือนขวดเหล้าอื่นๆ ที่คุณจะเก็บเข้าตู้ และจะเปิดออกมาชงดื่มเฉพาะเวลาเพื่อนๆ มาปาร์ตี้เท่านั้น

     ในเว็บไซต์ของ Seventy One Gin กล่าวว่า จินของเขาผ่านการบ่มในถังโอ๊กที่เปลี่ยนสลับหลายชนิดยาวนาน 71 คืน จนกลายเป็นที่มาของชื่อ ขณะที่ส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องกลิ่น แถมยังเพิ่มมูลค่าให้ฟังดูว้าวก็เช่น ใบไอวีจากแอลเบเนีย เกรปฟรุตและกุหลาบจากตุรกีบ้านเกิดของเขา และดอกโบตั๋นชนิดพิเศษ ที่อะลาสเองเปรียบว่าเป็นดอกมะลิเวอร์ชั่น ‘Earthy’ และ ‘Desert-y’ นึกกลิ่นตามกันออกไหม? เขายังบอกอีกว่าดอกโบตั๋นชนิดที่เขาใช้ทำจินนั้นบานแค่ปีละครั้งตอนกลางคืน พอรุ่งเช้าต้องแสงแดดก็จะเหี่ยวทันที ฟังแล้วมากเรื่องราวพอที่จะให้เสียเงิน 140 ปอนด์ (ประมาณ 6,255 บาท) กดสั่งในเว็บไซต์ seventyonegin.com หรือยัง

     ถ้าพูดถึงเหล้าจากคนดังโดยไม่พูดถึงเธอคนนี้ก็คงจะแปลกเสียเหลือเกิน เคนดัล เจนเนอร์ (Kendall Jenner) นางแบบสาวผลผลิตจากบ้านคาร์เดเชียน (Kardashian) ผู้พลิกวิกฤติดราม่าเรื่องการเหยียดชาวเม็กซิกันมาเป็นยอดขายที่พุ่งทะยาน

     818 Tequila ของเธอผลิตในโรงงานที่หมู่บ้านฮาลิสโก (Jalisco) ประเทศเม็กซิโก เส้นทางกว่าจะมาเป็นเตกีลาแต่ละขวดของเธอก็แลดูน่าสนใจ เช่น การต้มในเตาอิฐโดยชาวบ้าน การบ่มในถังโอ๊กพิเศษเช่นเคย

     แต่สิ่งที่เจนเนอร์พยายามเน้นมากที่สุดในเรื่องราวทั้งหมด คือความใกล้ชิดกับชาวบ้านผู้ผลิต ให้ความรู้สึกว่าแต่ละขวดนั้นมาจากทุกขั้นตอนของหมู่บ้านล้วนๆ ไม่แพรวพราวด้วยขั้นตอนอุตสาหกรรมใหญ่มากเกินไปแบบแบรนด์ใหญ่ๆ และไม่ใช่แค่เรื่องราวที่ดูจะเรียกความสนใจได้มาก 

     รสชาติเตกีลาจากอากาเวทั้ง 3 แบบของเธอ เริ่มต้นที่ Blanco กับบอดี้ที่เบา มาพร้อมรสชาติวานิลลาซ่อนด้วยผลไม้ทรอปิคัลและซิตรัส นอกจากนี้ยังให้กลิ่นแบบตะไคร้ ฟลอรัล และคาโมมายล์ ตามมาด้วย Reposado ที่เข้มข้นขึ้นมาด้วยสีและรสชาติของคาราเมลวานิลลา แทรกด้วยกลิ่นหอมหวานของน้ำผึ้งและผลไม้ ปิดท้ายด้วย Anejo ตัวเข้มข้นสุดของสายนี้ ที่มีการเพิ่มกลิ่นเครื่องเทศและซินนามอนเข้ามาด้วย

     และถึงแม้จะเปิดตัวไปไม่ถึง 1 ปี แต่ก็กวาดรางวัลประกวดมา 6 รางวัลแล้ว

     ด้านมารายห์ แครี (Mariah Carey) เองก็ไม่ยอมแพ้ผู้คนฝั่งวงการแฟชั่น ดีวาวัย 52 ปีคนนี้นึกสนุก ด้วยการออกไลน์เหล้าครีมลิเคียวร์ออกมาในนาม ‘Black Irish’ ซึ่งหลังจากปล่อยออกมาไม่นานก็โดนดราม่าเข้าไปเต็มๆ ว่าตั้งชื่อไม่ดูตาม้าตาเรือ เพราะฟังดูเหยียดเชื้อชาติ แต่แครีเองก็ออกมาแก้ตัวแล้วว่าชื่อนี้ได้มาจากพ่อและแม่ของเธอเอง อย่าคิดมากไป

     แล้วเหล้าครีมลิเคียวร์คืออะไร? สิ่งนี้คือเหล้าหวานที่ได้จากการผสมเหล้ากลั่นและครีม โดยแครีทำออกมาให้เลือกหลากหลายรสจนเผลอนึกว่าเป็นรสไอศกรีม เช่น Original Irish Cream, Salted Caramel และ White Chocolate แฟนๆ ของมารายห์ แครีคงจะถูกใจดีไซน์ของขวดที่ประทับตรา ‘MC’ พร้อมสัญลักษณ์ผีเสื้อประจำตัวของเธอ

แหล่งที่มา https://www.gqthailand.com/lifestyle/article/stage-menu70-fine-dining