คอนเทนต์ครีเอเตอร์สายท่องเที่ยว อยู่อย่างไรให้รอดในยุคโควิด

  เราสองคนเป็นนักกฎหมายที่ชอบการท่องเที่ยว ซึ่งการเป็นคนทำคอนเทนต์ หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creator) นั้นเกิดจากความไม่ตั้งใจ เนื่องจากปกติเราชอบชวนกันไปเที่ยว เวลาเจอสถานที่สวยๆ ก็จะเก็บภาพกลับมาแล้วเล่าให้เพื่อนฟัง จนลองทำเพจรีวิวการท่องเที่ยวในแบบคู่รักในชื่อ ‘Couple Travel พาแฟนไปไหนดี’ 

     คอนเทนต์ครีเอเตอร์สายท่องเที่ยวถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่หลายคนมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “น่าอิจฉา ได้ไปเที่ยวแถมยังได้งานด้วย” แต่สำหรับคนที่อยู่ในวงการนี้จะรู้ดีว่ามีอุปสรรคที่ต้องประสบพบเจออยู่ไม่น้อย

     ใครจะคิดว่าอาชีพที่หลายคนอยากเป็น กลับกลายเป็นหนึ่งในอาชีพที่ไม่มั่นคงที่สุด และได้รับผลกระทบมากที่สุดในช่วงโควิด-19 ระบาดระลอกแรก เราเองปรับตัวกันไม่ทัน คือก่อนหน้าจะมีโควิด-19 เราเดินทางไปต่างประเทศแทบทุกเดือน จนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ล็อกดาวน์ และอีกหลายอย่างตามมา

     ช่วงโควิด-19 รอบแรก ทำให้งานทุกอย่างถูกยกเลิก ไฟลต์บินทุกไฟลต์ถูกเลื่อน จนเรารู้สึกช็อกเหมือนกัน จากที่เดินทางไปไหนมาไหนตลอด กลายเป็นต้องมานั่งดูรูปเก่าๆ เที่ยวทิพย์วนกันไป คนเดินทางกันไม่ได้ และไม่มีใครสนใจการท่องเที่ยว คอนเทนต์ที่ปล่อยในช่วงนั้นไม่ได้รับความสนใจ เราสองคนเกิดอาการมึนงงและเศร้าอย่างบอกไม่ถูก แต่พอเวลาผ่านไปเดือนหนึ่ง ก็เริ่มมีสติกลับมาหาไอเดียสนุกๆ ทำระหว่างเดินทางไม่ได้ เช่น ทำขนมขายหารายได้เสริม รวมทั้งหาไอเดียทำคอนเทนต์ที่จะช่วยฆ่าเวลาเบื่อๆ ได้ดีทีเดียว

 หลังจากสถานการณ์ดีขึ้น ทุกอย่างเริ่มกลับมาปกติ งานที่เงียบหายไปก็เริ่มมีลูกค้าติดต่อเข้ามา แนวโน้มดู (เหมือนว่า) โอเค ทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี จนกระทั่งโควิด-19 กลับมาอีกครั้ง ซึ่งช่วงที่หนัก ๆ เลยก็คือปีที่ผ่านมา ทุกอย่างกลับมาวนลูปเดิม งานถูกยกเลิก แพลนการเดินทางถูกเลื่อน โควิด-19 ลากยาว 4 เดือนเต็ม เราสองคนเหมือนถูกฟรีซไว้ ส่งผลกระทบต่อรายได้จากการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ไม่มีเข้ามาเลยตลอดระยะดังกล่าว แต่กลับมีรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกเดือน 

     จนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา หลังจากไทยเริ่มเปิดประเทศ ก็เห็นหลายคนได้ไปเที่ยวต่างประเทศกันบ้างแล้ว ซึ่งเราสองคนก็มีแพลนจะไปฉลองคริตส์มาสด้วยกันที่ประเทศอังกฤษ ไปดูไฟประดับสวยๆ ที่ลอนดอน เราทำการยื่นวีซ่า วางแผนเที่ยว จองทุกอย่างไว้เรียบร้อย ตั้งใจจะไปทำคอนเทนต์ที่นั่น แต่สุดท้ายก็มีเซอร์ไพรส์เนื่องจากโอไมครอนระบาดทั่วอังกฤษ จนเราตัดสินใจยกเลิกแพลนเที่ยวและสปอนเซอร์ต่างๆ บอกเลยว่านักเดินทางอย่างเราได้รับผลกระทบเต็มๆ ไม่ใช่แค่เรื่องรายได้ หรือค่าใช้จ่ายที่เสียไป แต่ส่งผลไปถึงสภาพจิตใจ เหมือนคนโดนหักอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     ถ้าถามว่าจะทำอย่างไรให้อยู่รอดในสถานการณ์แบบนี้ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์สายท่องเที่ยวในมุมมองของเรา คือถ้าต้องเจอสถานการณ์โควิด-19 ที่ยาวนาน การท่องเที่ยวคงกลับมาฟื้นฟูได้ยาก คำถามคือจะนำคอนเทนต์อะไรมาให้ผู้ติดตามได้เสพกัน

วิธีอยู่รอดในแบบฉบับของเรา

• สร้างบุญเก่าไว้เยอะๆ เมื่อมีโอกาสและเวลาที่เหมาะสม คว้ามันไว้ให้ได้เยอะที่สุด หรือพูดง่ายๆ ว่ากอบโกยทุกช่วงเวลาที่มีโอกาส ช่วงที่สถานการณ์เริ่มดีขึ้น เราไม่รอช้า และไม่เคยปฏิเสธโอกาสแม้แต่งานเดียว
• เคยมีคนถามว่า ‘เที่ยวทิพย์จนคอนเทนต์หมดสต็อกแล้ว จะหาคอนเทนต์อะไรมาเขียนอีก’ เอาจริงๆ เราไม่จำเป็นต้องยึดติดกับเรื่องของการเดินทาง เราสามารถดึงเรื่องราวความเป็นตัวเรามาครีเอตเป็นคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ให้กับผู้ติดตามได้อ่าน 
• จากที่เราได้ไปต่างประเทศแทบทุกเดือน พอมีการปิดประเทศ เราไม่มีคอนเทนต์เที่ยวต่างประเทศ ก็ต้องปรับตัวมาเที่ยวในไทย หาสถานที่สวยๆ แปลกใหม่ มานำเสนอให้กับลูกเพจได้ตามรอยกัน แถมยังเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยไปในตัวด้วย 
• ลองหาคอนเทนต์รูปแบบใหม่ๆ มานำเสนอ ถ้าคอนเทนต์ของเราส่วนใหญ่เป็นภาพนิ่งก็ลองหันมาทำวิดีโอที่แตกต่างมากขึ้น ช่วยเพิ่มแพลตฟอร์มใหม่ๆ ทำให้มีโอกาสได้งานมากขึ้น
• “คนเราไม่ควรมีเพียงหนึ่งอาชีพ” เป็นประโยคที่เคยได้ยินกันมาแล้ว และเราว่ามันคือสิ่งที่ดีจริงๆ เมื่อไหร่ที่เราล้ม อย่างน้อยก็จะมีเบาะนุ่มๆ มาคอยซับพอร์ตเราอยู่ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง อย่างในช่วงที่เดินทางไม่ได้ เราก็หันมาลุยงานอื่น ทั้งขายของ เล่นหุ้น เทรดคริปโตฯ หารายได้เสริมกันไป สิ่งนี้แหละที่ช่วยต่อลมหายใจ ประคับประคองชีวิตในช่วงเวลาที่แย่มากๆ ได้

     สุดท้ายนี้เราเชื่อว่าสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เราทุกคนได้ข้ามผ่านประสบการณ์ต่างๆ ทั้งดีและร้าย ซึ่งทำให้เราแข็งแกร่งและเคยชินกับมันมากขึ้น สิ่งที่เราเคยตื่นตระหนก ตอนนี้กลายเป็นเราตระหนักกับมันมากกว่า โดยเจ้าโควิด-19 สอนให้เราเรียนรู้ที่จะล้มแล้วรีบลุกขึ้นมาให้เร็วที่สุด ในขณะเดียวกันเราก็เริ่มปรับตัวอยู่ร่วมกับมัน มีความระมัดระวังมากขึ้น และใช้ชีวิตอย่างมีสติในทุกวัน