ควรกินอะไรก่อนนอน ถึงจะหลับสบาย

 ไม่ใช่แค่ซิกแพ็กที่สร้างขึ้นในห้องครัว หากคุณอยากนอนหลับเต็มอิ่ม ไม่หลับๆ ตื่นๆ หรือลุกขึ้นมาดีดตอนกลางคืน อย่าลืมใส่เมนูอาหารเหล่านี้ลงในพจนานุกรมสุขภาพดีของคุณด้วย เราขอมองข้ามอาหารและเครื่องดื่มที่รู้ๆ กันอยู่ว่าควรหรือไม่ควรกินก่อนนอน เช่น ดื่มนมอุ่นแล้วดี ส่วนชาและกาแฟควรหลีกเลี่ยง เพราะยังมีของกินอีกมากที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าส่งผลต่อการนอน รับรองจะเซอร์ไพรส์คุณแน่ๆ แต่เราก็ไม่อยากให้คุณใช้ชีวิตยากลำบากขึ้น เอาเป็นว่าถ้าจำเป็นต้องกินจริงๆ ก็ให้กินก่อนนอนสักประมาณ 3 ชั่วโมงกำลังดี    

ควรกินสิ่งเหล่านี้

พีนัตบัตเตอร์
          ไม่ได้มีดีแค่โปรตีน แต่ยังอุดมด้วยไนอะซิน (Niacin) ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยในการหลั่งเซโรโทนิน (Serotonin) สารสำคัญที่ช่วยให้เราสงบและผ่อนคลาย แต่ไม่ควรกินเยอะเพราะเนยถั่วหนักทั้งไขมันและแคลอรี กินประมาณ 1 ช้อนชา ทาบางๆ บนขนมปังโฮลวีต หรือคลุกในโยเกิร์ตสักถ้วย หลับสบายได้โปรตีน

กล้วย
          มีประโยชน์ครอบจักรวาล เด่นเรื่องธาตุโพแทสเซียมและวิตามิน B6 ที่จำเป็นต่อการนอน มีทริปโตเฟน (Tryptophan) ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเมลาโทนิน (Melatonin) หรือสารในสมองที่เกี่ยวพันกับการนอนโดยตรง หนำซ้ำกล้วยยังเป็นคาร์โบไฮเดรต (การกินคาร์โบไฮเดรตก่อนนอนเล็กน้อยช่วยให้หลับ) กินแล้วอยู่ท้องนอนสบาย

เชอร์รี
          มีผลการวิจัยกล่าวว่า กินเชอร์รีเป็นประจำช่วยให้หลับยาวนานขึ้น เพราะเชอร์รีเป็นผลไม้หนึ่งเดียวที่มีเมลาโทนิน เปรียบประหนึ่งยานอนหลับธรรมชาติ ลองกินประมาณ 1 กำมือ หรือปั่นเป็นสมูทตี้ผสมกล้วยครึ่งลูกและนมถั่วเหลืองครึ่งถ้วย แค่นี้ก็ช่วยได้   

ชาดอกคาโมมายล์
          ไม่ใช่ชาทุกประเภทที่ห้ามดื่มก่อนนอน เพราะชาดอกคาโมมายล์คือยานอนหลับดีๆ นี่เอง ดื่มแล้วเคลิ้มคลายความเมื่อยล้า ใครชอบรสสัมผัสนวลเนียนแนะนำให้เติมนมอัลมอนด์เล็กน้อย กลายเป็นเครื่องดื่มห้าดาวขึ้นมาทันที  

คอนเฟลกซ์
          เหลือเชื่อแต่จริง เพราะอาหารมื้อเช้าอย่างคอนเฟลกซ์ช่วยให้คุณหลับสบายตอนค่ำ มองหาชนิดที่ไม่เคลือบน้ำตาลเพื่อป้องกันรอบพุงขยาย เทใส่ชามแล้วรินนมตามลงไป “หลับเป็นตาย” คนที่กินแล้วยืนยันอย่างนั้น

ป๊อปคอร์นไร้ไขมัน
          จากผู้ร้ายกลายเป็นดีเมื่อการกินป๊อปคอร์นช่วยให้คุณหลับ อย่างแรกคือป๊อปคอร์นเป็นคาร์โบไฮเดรต กินแล้วง่วง สอง ช่วยสร้างเซโรโทนิน แต่อย่าเลือกแบบเค็มหรือใส่เนยจนชุ่ม เพราะเดี๋ยวจะได้ผลเสียมากกว่าดี  (คำเตือน: ไม่ควรกินเกิน 3 กำมือ)

ควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้

ชีสเบอร์เกอร์กับเฟรนช์ฟรายด์
          คู่หูตัวแสบ เริ่มจากไขมันในชิ้นเนื้อเร่งกรดในกระเพาะอาหารและย่อยยาก ยิ่งผนึกกำลังกับเฟรนช์ฟรายด์ที่เป็นอาหารยอดแย่ที่สุดในโลก การกินสองอย่างนี้คู่กันจึงไม่ต่างจากการสั่งวอดก้าผสมกระทิงแดง ระบบเผาผลาญของคุณจะแย่และเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อน

บรอกโคลี
          กินผักน่ะดี แต่ผักบางประเภทต้องเลือกเวลากิน เช่น อาหารประเภทกากใยสูงอย่างบรอกโคลี ที่แม้จะมีทริปโตเฟนที่เป็นประโยชน์ แต่การกินมากเกินไปหรือกินแล้วนอนทันทีกลับให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม เพราะเป็นไฟเบอร์ย่อยช้า กินแล้วมันไม่ย่อย พลอยให้พ่นแก๊สพิษทั้งคืน  

แกงกะหรี่อินเดีย
          ไม่ได้ผิดเพราะเป็นอาหารอินเดีย แต่ผิดที่ความเผ็ด ดังนั้นจึงเหมารวมถึงอาหารไทยรสจัดทุกชนิด แต่แกงกะหรี่แน่นทั้งรสชาติและความมัน กินแล้วอืดร้อนข้างในทำให้นอนหลับไม่สนิท มักตื่นกลางดึก แถมยังทำให้ฝันร้าย (อย่าทำเป็นเล่น มีคนไข้หลายรายเล่าให้หมอฟังว่ากินอาหารเผ็ดแล้วฝันร้ายทุกที)    

แอลกอฮอล์
          แยกให้ออกระหว่างหลับง่ายกับหลับสบาย เหล้าอาจมีฤทธิ์ทำให้คุณง่วงหลับ แต่เป็นการหลับที่ไม่ได้คุณภาพ เพราะหลังจากที่ร่างกายเผาผลาญแอลกอฮอล์ซึ่งกินเวลา 2-3 ชั่วโมง จะเกิดสารก่อกวนการนอน ร่างกายไม่ได้ซ่อมแซม สังเกตว่าเรามักรู้สึกหลับๆ ตื่นๆ เหมือนสมองไม่ได้พัก    

ดาร์กช็อกโกแลต
          ช็อกโกแลตมีกาเฟอีน! ใช่ คุณอ่านไม่ผิด โดยเฉพาะดาร์กช็อกโกแลตที่มีกาเฟอีนพอๆ กับกาแฟหนึ่งแก้ว นึกว่ากินแล้วดี ที่ไหนได้ตาค้าง หัวใจเต้นแรง จำไว้ว่ายิ่งดาร์กเท่าไหร่ ปริมาณกาเฟอีนยิ่งเยอะ ดังนั้นเลือกแบบที่โกโก้ต่ำไว้ก่อนจะดีกว่า 

แหล่งข้อมูล https://www.gqthailand.com/lifestyle/article/health-wellness-2