ในช่วงนี้ที่ปัญหาของการใช้โซเซียลมีเดียเป็นเรื่องที่เห็นได้บ่อยขึ้น หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า FOMO (Fear of Missing Out) หรืออาการของคนกลัวการตกข่าว แต่นอกจากคำว่า FOMO แล้ว ยังมีอักษรย่อที่คล้ายกันอีกคำ แต่กล่าวถึงเรื่องในอีกบริบทนั่นก็คือ FOGO ที่ย่อมาจาก Fear of Getting Old หรือการกลัวการแก่ตัว ซึ่งเป็นอาการความกลัวที่พบเจอได้บ่อยครั้ง ไม่ต่างอะไรไปจาก FOMO มากนัก

     ผลสำรวจของ The Harris Poll ที่จัดขึ้นโดยบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) แสดงให้เห็นว่า 87 เปอร์เซ็นต์ของคนอเมริกันเกิดความกลัวต่อผลที่ตามมาของการแก่ตัวอย่างน้อย 1 ด้าน หรือในปี ค.ศ. 2020 ผลการสำรวจของบริษัท Statista ยังพบว่า 40.5 เปอร์เซ็นต์ของคนจีนรู้สึกวิตกกังวลต่อการแก่ตัวบ่อยครั้ง และ 52.2 เปอร์เซ็นต์รู้สึกวิตกกังวลต่อการแก่ตัวเป็นบางครั้ง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงทีเดียว

     ทำไมคนถึงกังวลการแก่ตัว?

     ปัจจุบันผู้คนหันมาหลงใหลความเยาว์ (Youth) กันมากขึ้น โดยเฉพาะลักษณะรูปร่างทางกายภาพ โดยเห็นได้จากมูลค่าตลาดของธุรกิจศัลยกรรมความงามของโลก ที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตจาก 49.14 ร้อยล้านเหรียญสหรัฐในปี ค.ศ. 2020 เป็น 64.88 ร้อยล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2028 และแน่นอนว่าในสังคมที่มีความเยาว์เป็นมาตรฐานความงาม (Beauty Standard) การมีรอยย่น ตีนกา หรือผิวที่หย่อนคล้อยมักถูกมองเป็นคุณลักษณะที่ไม่น่าดึงดูด ทำให้ผู้คนต่างต้องการที่จะคงความเยาว์ไว้ให้ได้นานที่สุด

หลายคนอาจเห็นว่าความรู้สึกกังวลต่อการสูงวัยมักเป็นปัญหาต่อกลุ่มคนเพศหญิงที่ให้ความสำคัญต่อความสวยงาม แต่ในความเป็นจริง กลุ่มเพศชายก็ต่างเผชิญต่อความกลัวนี้ไม่น้อยเช่นกัน เพราะหลายคนมองว่าการแก่ตัวทำให้สมรรถภาพทางกาย เช่น ความแข็งแกร่งลดต่ำลง ความจำเป็นที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นก็อาจเพิ่มมากขึ้น ความรู้สึกต่างๆ เหล่านี้ทำให้เพศชายรู้สึกว่าการมีอายุมากขึ้นอาจทำให้พวกเขาสูญเสียความเป็นชาย (Masculinity) 

     นอกจากนั้นความกลัวอาจเกิดมาจากภาพจำที่ว่า คนที่อายุมากขึ้นจะมีความสุขน้อยลง เผชิญภาวะซึมเศร้าและความเหงามากขึ้น หรือบางคนอาจเชื่อว่าความเหงาเป็นสิ่งที่เกิดคู่กับการแก่ตัว ยกตัวอย่างในเรื่องของวิกฤติวัยกลางคน (Midlife Crisis) ที่ทำให้บางคนกลัวการเข้าสู่วัย 40

     หลายคนอาจตั้งคำถามว่า คำว่า ‘แก่ตัว’ หมายถึงคนช่วงอายุเท่าใด และ FOGO เกิดขึ้นในช่วงใด?

     ในปัจจุบันคนเริ่มกลัวการแก่ตัวกันเร็วขึ้น จนทำให้คำว่า FOGO ไม่ได้อธิบายเพียงแค่ความกลัวต่อการแก่ตัว (Getting Old) แต่ยังสามารถหมายถึงความวิตกกังวลต่อการเป็นผู้ใหญ่วัยกลางคน (Growing Up) ไปด้วย โดยจะเห็นได้ว่าจำนวนคนที่อยู่ในช่วงอายุ 20 ตอนต้นเริ่มมีความกังวลต่อการเข้าสู่ช่วงวัย 30 โดยเฉพาะในสังคมที่หลงใหลให้ความสำคัญต่อการประสบความสำเร็จ 

     เราคงเคยได้เห็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสำเร็จของคนที่อายุยังน้อย เช่น เจ้าของธุรกิจที่สร้างเงินล้านภายในอายุ 25 ปี หรือเทคนิคเอาชนะความสำเร็จก่อนอายุ 30 

     ซึ่งข้อความต่างๆ ในลักษณะนี้อาจหล่อหลอมให้เกิดความคิดได้ว่า คนเราควรจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีฐานะทางสังคม ฐานะการเงิน และครอบครัว ภายในอายุ 30 หรือกลางช่วงวัย 30 ซึ่งความคิดเหล่านี้มักสร้างความกดดันให้กับคนรุ่นใหม่ในสังคมเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นได้จากผลสำรวจความกลัวต่อการแก่ตัวของคนจีนที่กล่าวถึงในข้างต้น ซึ่งได้อธิบายไว้ว่าสถานะการเงินและการแต่งงานเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คนจีนเกิดความเครียดต่อการแก่ตัว

     อย่างไรก็ตาม อายุ (ที่แท้จริง) เป็นเพียงแค่ตัวเลข อย่างเช่นที่เราได้ยินบ่อยครั้ง เพราะงานวิจัยในจิตวิทยาแสดงให้เห็นว่า ‘อายุใจ’ (Felt Age) หรืออายุที่เรารู้สึกนั้นสามารถเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมต่างๆ ในกิจวัตรประจำวันของเราได้ดี โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดูแลตัวเอง เช่น การไปออกกำลังกาย เล่นโยคะ ซื้อเสื้อผ้าใหม่ เข้าร้านทำผม เป็นต้น 

     ท้ายที่สุด การที่เรายอมรับตัวตนที่แท้จริง ที่เราเป็น และที่เรารู้สึกเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เรามีความสุขในตนเอง ชีวิตของมนุษย์ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเอื้อเฉพาะช่วงอายุใดอายุหนึ่ง เพราะในแต่ละช่วงชีวิตล้วนเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสความสวยงามและคุณค่าของการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันไป

Add Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *