ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ต้นตำรับนักลงทุนเน้นคุณค่าของประเทศไทย เคยกล่าวไว้ว่า 

     “การท่องเที่ยวนั้นอยู่ในยีนของมนุษย์ที่ต้องการแสวงหาโลกใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเอาตัวรอดและเผยแพร่เผ่าพันธุ์”

     การท่องเที่ยวนั้นไม่ได้เป็นเพียงส่วนประกอบที่ไม่สำคัญของมนุษย์ แต่มันฝังลึกลงไปในเรื่องสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์ แปลว่ามันเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ของการมีชีวิตอีกด้วย ดังนั้นหากมองในมุมของการลงทุนอย่างยั่งยืน ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่จะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นแน่นอน เพียงแต่ไม่มีใครสามารถฟันธงได้ว่าเมื่อไหร่

     ในเชิงการลงทุนผมว่าธุรกิจการท่องเที่ยวไม่มีวันตาย สาเหตุที่เม็ดเงินในอุตสาหกรรมนี้ลดลง ก็ยังคงมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นหลัก แต่ผมมั่นใจเสมอว่าวันหนึ่งจะมีการ Rebound ของอารมณ์คนที่อัดอั้น เพราะต้องการออกไปเที่ยว ออกไปใช้เงินอย่างรุนแรง เพราะการ Work from Home การกักตัว หรือล็อกดาวน์ เป็นการขอความร่วมมือของทุกคนบนมาตรการของรัฐ หรืออาจกล่าวได้ว่าเรากึ่งถูกบังคับให้ทำนั่นเอง

     หากเราเชื่อว่ากลุ่มท่องเที่ยวจะกลับมาดีในวันหนึ่ง ผมขอแชร์แนวทางโอกาสในการลงทุนในกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินที่จะเข้ามาในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้แก่ กลุ่มสายการบิน และกลุ่มโรงแรม

แก่นของการลงทุนหุ้นรายตัวในแต่ละกลุ่มธุรกิจ คือเลือกลงทุนในหุ้นที่เราคาดว่ามีโอกาสจะเป็นผู้ชนะ หรือมีโอกาสจะทำกำไรจากการฟื้นตัวในอุตสาหกรรมได้มากที่สุด ซึ่งฉบับก่อนหน้านี้ผมได้กล่าวถึงการลงทุนในกลุ่มสายการบินไปแล้ว ขอทวนสั้นๆ ว่าเราจะเลือกลงทุนในหุ้น

  • AAV (สายการบินแอร์เอเชีย) และ BA (สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส) เนื่องจากทั้งสองสายการบินถึงแม้จะขาดทุนต่อเนื่อง แต่ยังเป็นบริษัทที่อยู่ในเกณฑ์ที่ลงทุนได้ บริษัทยังมีรายได้และนำส่งงบ ตามระเบียบของตลาดหลักทรัพย์

     เราจะหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นที่อาจจะขาดทุนหนักจนไม่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจต่อได้ หรือมีโอกาสล้มเลิกกิจการสูง เช่น

  • NOK (สายการบินนกแอร์) เนื่องจากบริษัทไม่ได้นำส่งงบการเงิน
  • THAI (การบินไทย) เนื่องจากเป็นบริษัทที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน    

ในการพิจารณาลงทุนกลุ่มโรงแรมก็มีแก่นแนวคิดที่เหมือนกัน หัวใจของการลงทุนที่ยั่งยืนและเติบโตได้นั้นจะต้องมองให้ออกว่าบริษัทไหนจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งกลุ่มโรงแรมมีผู้เล่นในตลาดหุ้นไทยอยู่มากกว่า 10 ราย ผมจะคัดมา 3 บริษัทที่มีขนาดใหญ่และเป็นที่รู้จักมากกว่าบริษัทอื่นในกลุ่มโรงแรม โดยจะพิจารณาจากผลประกอบการในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นหลัก แล้วเลือกดูว่าเราควรลงทุนในบริษัทไหน ประกอบไปด้วย

  • CENTEL : บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน)
    • งบปี 2563 รายได้ 13,250 ล้านบาท ขาดทุน 2,775 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ -22 เปอร์เซ็นต์
    • งบปี 2564 (ไตรมาสที่ 1-3) รายได้ 7,887 ล้านบาท ขาดทุน 1,885 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ -25 เปอร์เซ็นต์
  • ERW บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
    • งบปี 2563 รายได้ 2,348 ล้านบาท ขาดทุน 1,715 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ -75 เปอร์เซ็นต์
    • งบปี 2564 (ไตรมาสที่ 1-3) รายได้ 913 ล้านบาท ขาดทุน 1,804 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ -208 เปอร์เซ็นต์
  • MINT : บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
    • งบปี 2563 รายได้ 58,695 ล้านบาท ขาดทุน 464 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ -38 เปอร์เซ็นต์
    • งบปี 2564 (ไตรมาสที่ 1-3) รายได้ 49,283 ล้านบาท ขาดทุน 11,609 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ -25 เปอร์เซ็นต์

     *ข้อมูลจาก www.set.or.th ณ วันที่เขียนบทความนี้ ยังไม่มีการประกาศงบการเงินไตรมาสที่ 4 ของปี 2564

     จากตัวเลขผลประกอบการโดยสังเกตอัตรากำไรสุทธิเป็นหลัก เราจะเห็นว่า ERW มีตัวเลขอัตรากำไรสุทธิที่แย่มากกว่าบริษัทอื่นในกลุ่ม ตรงนี้เราสามารถตัด ERW ออกจากการเลือกลงทุนได้เลย เพราะช่วงวิกฤติที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าบริษัทปรับตัวได้ไม่ดีนัก ถ้าเทียบกับ CENTEL และ MINT ซึ่งถ้าเรามองอัตรากำไรสุทธิของทั้ง CENTEL และ MINT จะพบว่า CENTEL ยังคงรักษาผลประกอบการได้ดีกว่าเล็กน้อย 

     อย่างไรก็ตาม ถ้าอุตสาหกรรมที่เราพิจารณาลงทุนนั้นไม่ได้มีผู้ชนะที่โดดเด่นอย่างชัดเจน เราสามารถเลือกลงทุนทั้งสองบริษัทคู่กันไป เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงไปในตัวได้เช่นเดียวกัน

     สังเกตได้ว่าจุดที่ต้องพิจารณาในการลงทุนหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวมีไม่มาก แต่ความท้าทายอยู่ที่ว่าเราจะทนกับกระแสของโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่เข้ามา หรือปัจจัยอื่นได้มากน้อยแค่ไหน ช่วงที่โควิดสายพันธุ์โอไมครอนเริ่มระบาดก็ยังพอมีข่าวดีคือตลาดหุ้นทั่วโลกไม่ได้กังวลกับการระบาดสายพันธุ์นี้มากนัก กล่าวคือไม่มีแรงเทขายหนักๆ ต่อเนื่องหลายวันเหมือนครั้งแรกที่โควิด-19 เริ่มระบาด จุดนี้อาจเป็นสัญญาณของภาพรวมที่ดีว่า กลุ่มการท่องเที่ยวจะกลับมาดีได้เร็วขึ้น เนื่องจากคนทั่วโลกได้ปรับชีวิตความเป็นอยู่ให้เข้ากับการระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีแล้ว ซึ่งหลังจากเลือกลงทุนได้แล้ว ก็เป็นหน้าที่ของผู้ลงทุนที่จะต้องติดตามผลประกอบการและข่าวสารของบริษัทต่อไป หากมองในมุมของการลงทุนอย่างยั่งยืนแล้ว อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ยังเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจครับ

แหล่งที่มา https://www.gqthailand.com/lifestyle/article/tips-for-saving-money-and-investing

Add Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *