เกาะกระแสที่กำลังเป็นที่นิยมในวงการกันซักนิด กับการหันหลังให้กับการนำเข้าวัตถุดิบ แต่หันมาสนใจในวัตถุดิบดีเด่นประจำท้องถิ่นนั้นๆ แทน ซึ่งนอกจากเทรนด์นี้จะเป็นที่นิยมกันทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วยแล้ว ยังทำให้วงการอาหารบ้านเราคึกคักขึ้นด้วยเมนูใหม่ๆ วัตถุดิบใหม่ๆ จากบรรดาเชฟที่ต่างตระเวนเสาะหาวัตถุดิบดีๆ ที่ไม่เป็นที่พูดถึงมากนัก นำมาปรุงด้วยเทคนิคเฉพาะของเชฟแต่ละคน ทำให้เราได้รู้จักตัววัตถุดิบดียิ่งขึ้น และมีจานอร่อยให้เราชิมเพิ่มมากขึ้น ใครยังไม่มีไอเดีย นี่คือ 3 จานล่าสุดที่เราอยากแนะนำให้คุณไปลองในเดือนนี้
ข้าวปุ้นสมองหมู ที่ 100 MAHASETH
100 มหาเศรษฐ์ คือร้านอาหารอีสานโดยชาร์ลี กาเดอร์ (Surface) และเชฟแรนดี้ นพประภา (Fillets) นำเสนออาหารผ่านคอนเซ็ปต์ที่เรียกว่า Nose-to-Tail หรือการใช้วัตถุดิบให้ครบทุกส่วน ซึ่งเชฟบอกว่าอาจฟังดูเป็นเทรนด์จากตะวันตกก็จริง แต่วิธีการทำแบบนี้คู่ครัวอีสานและภาคเหนืออยู่แล้ว จึงไม่ต้องแปลกใจหากมาที่นี่แล้วคุณจะเจอจานเด็ดอย่าง ข้าวปุ้นสมองหมู (280 บาท) เราอาจจะคุ้นว่าคนภาคเหนือเขานำสมองหมูมาทำเป็น ‘แอ๊บอ่องออ’ แต่ที่นี่เชฟนำสมองหมูมาทำเป็นน้ำยาแทนเนื้อปลา เท็กซ์เจอร์ครีมมี่ออกเลี่ยนเล็กน้อยแต่ทานตัดกับผักเคียงได้พอดี ใครชอบลองของแปลกต้องไม่พลาด
ถนนมหาเศรษฐ์ สี่พระยา โทร. 02-235-0023
Pork Neck with Longan, Red Chili, Daikon ที่ Canvas
Canvas เป็นอีกหนึ่งร้านที่เชฟไรลีย์ แซนเดอร์ส เชฟหนุ่มจากเท็กซัส ติดใจวัตถุดิบไทยซะเหลือเกิน เพราะตั้งแต่เปิดร้านมาได้ 1 ปีกว่า ก็ออกหาวัตถุดิบใหม่ๆ นำมาปรุงเป็นอาหารไร้สัญชาติตามแนวคิดของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งล่าสุด Canvas ก็ได้เปิดตัวเซตเมนู ทั้งแบบ 6-คอร์ส (1,800 บาท/ท่าน) และ 9-คอร์ส (2,600 บาท/ท่าน) ไปหมาดๆ ซึ่งแต่ละคอร์สก็จะเต็มไปด้วยวัตถุดิบที่เชฟกำลังอินอย่างจานที่ 6 จาก 9 ในเซตใหญ่ที่เชฟเลือกเสิร์ฟคอหมูย่างชิ้นโต ทานคู่กับซอสพริกที่เผ็ดกว่าที่เราคาดหวังไว้มาก (แปลว่าดี) ความน่าสนใจคือเชฟไรลีย์เลือกเนื้อลำไย และผักขี้หูดมาทานแกล้มกันได้อย่างลงตัว
ซ.ทองหล่อ โทร. 099-614-1158
Pickled Elephant Garlic ที่ Asia Today
ไม่ใช่เชฟอย่างเดียวที่ออกล่าหาวัตถุดิบไทยมารังสรรค์เป็นอาหารจานอร่อย เพราะค็อกเทลบาร์น้องใหม่ย่านเยาวราชอย่าง Asia Today เขาก็ใส่ใจในรายละเอียดเลือกโปรโมตวัตถุดิบไทยในเครื่องดื่มอย่างน่าสนใจเช่นกัน อย่างแก้ว Pickled Elephant Garlic (360 บาท) ที่ทางร้านเลือกกระเทียมโทนที่เป็นสินค้า OTOP จากจังหวัดลำปาง มาเป็นวัตถุดิบไฮไลต์ โดยเลือกนำมาชูให้เด่นด้วยการเสิร์ฟแบบ Gibson (อธิบายง่ายๆ Gibson คือมาร์ตินี่ที่ใช้หอมดองแทนมะกอก) ด้วยการผสมวอดก้า กับรัม เวอร์มุธ และน้ำกระเทียมดอง (brine) เล็กน้อย ก่อนแต่งด้วยกระเทียมและเปลือกส้ม หากใครชอบ Dirty Martini หรือ Gibson คุณก็จะชอบแก้วนี้ไม่ยากเช่นกัน
ซ.รามไมตรี ถ.ไมตรีจิตต์ โทร.09-7134-4704
แหล่งที่มา https://www.gqthailand.com/lifestyle/article/stage-menu70-fine-dining