การดื่มแอลกอฮอล์นั้น ใช่ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นเพียงแค่การดื่มเพื่อความบันเทิงให้เมาหัวทิ่มกันไปข้างหนึ่ง แท้จริงแล้วแอลกอฮอล์แทบไม่ต่างอะไรกับศาสตร์แห่งเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวและวัฒนธรรม ที่เป็นตัวบ่งบอกวิถีชีวิตของผู้คนในแต่ละมุมโลกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นตัวช่วยชูโรงให้วันธรรมดา หรือมื้ออาหารสักมื้อมีความพิเศษขึ้นมาได้ด้วยเช่นกัน
แต่ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือค็อกเทลนั้น ไม่ใช่จะยกขึ้นจิบได้เฉพาะหลังพระอาทิตย์ตกดินเพียงเท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้น Champagne Breakfast ตามโรงแรมห้าดาวก็คงไม่ปรากฏเป็นตัวเลือกให้แขกได้เลือกจิบแชมเปญเคล้ากับออมเล็ต หรือขนมปังอุ่นๆ เป็นแน่แท้
ในช่วงกลางวันตัวเลือกของเบียร์แบบ IPA (India Pale Ale) ที่ออกแนวผลไม้รสสดชื่นสักไพน์ต ก็เป็นตัวเลือกให้คุณสั่งมาดื่มคู่กับจานมื้อกลางวัน อย่างเบอร์เกอร์ หรืออาหารที่หนักด้วยคาร์บและเนื้อสัตว์ได้อย่างบาลานซ์ ไม่ทำให้คุณเมาตกเก้าอี้แน่นอน
พอตกบ่ายพระอาทิตย์เริ่มราแสงสีทองเปลี่ยนห้วงเวลาเป็น Golden Hour ที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ในเมืองใหญ่ หรือริมชายหาด ช่วงเวลาดังกล่าวก็สวยงามน่าประทับใจ และจะมีอะไรดีไปกว่าเครื่องดื่มในมือสักแก้ว พร้อมกับการนั่งดูพระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า เครื่องดื่มสไตล์อิตาเลียนแบบอะเพริติโว (Aperitivo) ที่ไม่ว่าจะเลือกแบบรสหวานปนขมในเนโกรนี (Negroni) หรือสูตรทวิสต์แบบอเมริกาโน (Americano) ทางด้านสายฟิซซี (Fizzy) ก็มีอะเพอรอล สปริตซ์ (Aperol Spritz) เหล้าคัมปารีผสมโซดา ที่บางสูตรก็จะเหยาะโพรเซกโก (Prosecco) ลงไปเพิ่มความซาบซ่า ส่วนถ้าใครจะเลือกดื่มง่ายๆ แบบจิน แอนด์ โทนิก (Gin & Tonic) ก็สั่งมาได้แบบไม่ผิดกฎอะไร
เพราะศาสตร์แห่งการดื่มในช่วงกลางวันนั้นไม่มีอะไรมาก นอกจากการดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น หรือการแฮงก์เอาต์หลังเลิกงานรอเวลาดินเนอร์ ซึ่งคุณจะปล่อยวางจากขนบธรรมเนียมอะไรก็ตามแต่อย่างที่กล่าวมาได้เลย หากคุณกำลังใช้ช่วงเวลาพักร้อน และสั่ง Long Island Iced Tea มาดื่มริมสระตอนเที่ยงตรง ก็คงจะไม่มีใครตัดสินคุณได้
แหล่งที่มา https://www.gqthailand.com/lifestyle/article/stage-menu70-fine-dining