การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์ (Bitcoin) กลับมาอยู่ในความสนใจของตลาดเงินทุนอีกครั้ง เมื่ออีลอน มัสก์ (Elon Musk) เจ้าของบริษัท เทสล่า ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ของโลก ประกาศซื้อเงินบิตคอยน์มูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท) และเริ่มเตรียมรับสกุลเงินเข้ารหัส (Cryptocurrency) เพื่อการชำระเงินในการซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท

     อันที่จริงบิตคอยน์เริ่มมีแรงกระเตื้องหลังจากหยุดชะงักและนิ่งไปนานนับตั้งแต่ปี 2017 จนกระทั่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว สองบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินอย่าง Paypal และ Apple Pay ได้เปิดรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ทำให้เกิดความเชื่อมั่นและความสะดวกสบายในการแลกเปลี่ยน ส่งผลให้มูลค่าของบิตคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ ถึงสิ้นปีที่ผ่านมา

     อย่างไรก็ตาม นักลงทุนหน้าใหม่ที่จะลงทุนในบิตคอยน์ หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ซึ่งหวังทำกำไรจากการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ควรศึกษาตลาดเงินดิจิทัลให้ดี เข้าใจธรรมชาติของมัน และที่สำคัญคือต้องเข้าใจตัวเอง หาเหตุผลให้ได้ว่าทำไมเราถึงเลือกที่จะลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลมากกว่าที่จะลงทุนในตลาดหุ้น หรือสินทรัพย์อื่นๆ

สำรวจตัวเองว่าเป็นนักลงทุนแบบไหน

     นักลงทุนหน้าใหม่มักเห็นความหวือหวาของตลาด และผลกำไรที่งอกเงย โดยอาจมองข้ามพื้นฐานสำคัญของการเป็นนักลงทุนที่ดี นั่นคือการเข้าใจและรู้จักตัวเองเพื่อจะได้หาเหตุผลในการเลือกลงทุน โดยเฉพาะเงินดิจิทัลที่มีความผันผวนสูง เหตุใดเล่า เราจึงลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล

     การตั้งคำถามกับตัวเองอาจเป็นเรื่องจำเป็น ท่ามกลางทางเลือกในการลงทุนมากมาย เพราะอะไรเราต้องลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล เรามีความรู้มากน้อยแค่ไหนเกี่ยวกับวงการนี้ เงินที่เราจะนำไปลงทุนเป็นเงินเย็นหรือเงินหมุนจำนวนเงินเท่าไหร่ และคาแร็กเตอร์ของเราเป็นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะช่วยให้เรามีสติและอารมณ์ที่มั่นคงยามตลาดเงินดิจิทัลเกิดความผันผวน

เข้าใจและหาความรู้เรื่องตลาดเงินดิจิทัล

     ประการต่อมาคือต้องเข้าใจธรรมชาติของตลาดเงินดิจิทัล พร้อมกับหาความรู้ด้านการลงทุน อย่าลืมว่าสกุลเงินดิจิทัลมีมากมาย ตั้งแต่บิตคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลตัวแรกของโลก, อีเธอเรียม (Ethereum) และริปเปิล (Ripple) เป็นต้น

     โดยเงินดิจิทัลถือกำเนิดขึ้นจากเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain Technology) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินไม่จำเป็นต้องมี ‘ตัวกลาง’ เหมือนแต่ก่อน อย่างไรก็ตาม เงินดิจิทัลถูกคาดหวังในการนำมาใช้แทนที่ระบบเงินตราในปัจจุบัน แต่เนื่องจากมีอุปสรรคมากมายที่ทำให้เงินดิจิทัลไม่เป็นที่นิยมมากนัก ร้านค้ายังไม่ค่อยรับชำระเงินด้วยเงินดิจิทัล ประกอบกับความผันผวนที่สูงมาก จึงทำให้เป็นความเสี่ยงของคนที่ถือเงินดิจิทัล

     แน่นอนว่าการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่ง นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าเป็นเหมือนการลงทุนทองด้วยซ้ำไป คนลงทุนจำเป็นต้องรู้ว่าเหรียญเงินดิจิทัลที่เราจะลงทุนนั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร ใครเป็นผู้คิดค้น และถูกนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์หรือโครงการอะไรหรือไม่ ซึ่งจะเป็นองค์ประกอบที่ช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าเงินดิจิทัลนั้นมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน

การตั้งคำถามกับตัวเองอาจเป็นเรื่องจำเป็น ท่ามกลางทางเลือกในการลงทุนมากมาย

รู้จักลงทุน

     การลงทุนเงินดิจิทัลอาจไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ถ้าว่ากันตามหลักของการวางแผนทางการเงิน การลงทุนในสินทรัพย์ที่ ‘High Risk, High Return’ โดยเฉลี่ยไม่ควรเกิน 3-5 เปอร์เซ็นต์ของทรัพย์สินที่มี เพราะเป็นจำนวนเงินที่หากขาดทุนก็ไม่ถึงกับสูญเสียมาก แต่หากได้กำไรก็อาจมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น 5-10 เท่า

     อีกอย่างคือควรกระจายความเสี่ยง ไม่ควรลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลสกุลใดสกุลหนึ่งเพียงอย่างเดียว ควรกระจายไปลงทุนในสกุลเงินอื่นๆ ด้วย และควรจะเลือกลงทุนและซื้อขายกับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ที่น่าเชื่อถือ และได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งจะช่วยให้เราสบายใจในการซื้อขายเงินดิจิทัล เข้าถึงได้ง่าย และมีข้อมูลครบถ้วน

     สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเป็นนักลงทุนที่ดี คืออย่าลืมติดตามข่าวสารทั้งเหตุการณ์บ้านเมือง รวมถึงเศรษฐกิจในประเทศและของโลก ที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของเงินดิจิทัล การเข้าชมรมหรือสมาคมที่เกี่ยวกับเงินดิจิทัล ก็จะทำให้เราได้ความรู้เพิ่มมากขึ้น

     อย่าลืมว่าการเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ต้องมีวินัยในการลงทุน ถือคติใช้เงินเย็น และอย่าโลภเด็ดขาด เพียงเท่านี้ก็น่าจะทำให้เราสนุกกับการลงทุนในเงินดิจิทัล และไม่ได้ชื่อว่าเป็น ‘แมงเม่า’ ที่เข้ามาหวังกำไร แต่กลับต้องเจ็บตัวออกไป

แหล่งที่มา https://www.gqthailand.com/lifestyle/article/tips-for-saving-money-and-investing

Add Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *