ความเหงาคือภาวะทางอารมณ์เมื่อคนกำลังรู้สึกโดดเดี่ยว โดยสถิติต่างๆ แสดงให้เห็นว่าประชากรจำนวนมากกำลังเผชิญกับความเหงา จนเป็นที่มาของคำว่า ‘การแพร่ระบาดของความเหงา’ (Loneliness Epidemic) ที่กลายเป็นปัญหาทางสังคมในหลายประเทศ ปรากฏสถิติจากงานวิจัยชื่อ Lonely in the Deep ที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยมหิดลในปี พ.ศ. 2562 พบว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของคนไทยที่ได้ทำการสำรวจกำลังเผชิญกับภาวะความเหงา หรือสถิติในประเทศสหรัฐอเมริกาที่จัดทำโดยบริษัท Cigna ในปี ค.ศ. 2020 พบตัวเลขอยู่ที่ 61 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่ากลัว เมื่อคำนึงถึงผลกระทบต่อร่างกายของความเหงาแบบเรื้อรัง (Chronic Loneliness) ที่อาจเทียบเท่าได้กับการสูบบุหรี่ 15 มวน ต่อวัน 

     สถิติต่างๆ เหล่านี้ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า สังคมสมัยใหม่ (Modern Society) ที่ผู้คนต่างหันมาใช้ชีวิตในเมืองและพึ่งพาเทคโนโลยีในการใช้ชีวิตประจำวันนั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์เราเผชิญกับความเหงาในระดับที่สูงขึ้นหรือไม่

 หากลองวิเคราะห์การศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีและความเหงาจะเห็นสองมุมมองต่อคำถามที่ตั้งขึ้นมานี้ มุมหนึ่งมองเห็นว่า เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่สามารถบรรเทาความเหงาได้เป็นอย่างดี แต่ในอีกแง่มุม นักวิจัยกลับพบข้อมูลที่เสนอแนะว่า เทคโนโลยีสามารถเพิ่มความเสี่ยงให้คนเผชิญกับความโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีช่วยบรรเทาความเหงาได้อย่างไร?

     เมื่อพูดถึงเทคโนโลยี เราคงไม่สามารถมองข้ามกลุ่มของแก็ดเจ็ต (Gadget) ไปได้ เพราะแก็ดเจ็ตเป็นอุปกรณ์ที่เปิดโอกาสให้คนติดต่อและเชื่อมโยงกันได้มากขึ้น เช่น สายข้อมือ ‘Bond Touch’ ที่ทำให้คนที่มีความสัมพันธ์แบบระยะไกล (Long-Distance) สามารถส่งความคิดถึง โดยแตะบนหน้าจอสายข้อมือของตน อีกฝั่งก็จะได้รับสัญญาณสั่นที่ข้อมือ นอกจากนั้นอุปกรณ์แก็ดเจ็ตยังช่วยในเรื่องของปัญหาสุขภาพจิตอีกด้วย ยกตัวอย่างของหุ่นยนต์สัตว์เลี้ยง (Robotic Pets) ที่ทำให้ผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อม (Dementia) รู้สึกว่าพวกเขามีเพื่อนข้างกาย และไม่โดดเดี่ยว ซึ่งหุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสัตว์เลี้ยงจริงก็ว่าได้ เพราะถ้าหากผู้ป่วยลืมให้ข้าวหรือน้ำกับสัตว์เลี้ยง หุ่นยนต์เหล่านี้ก็ไม่ตาย ยังคงใช้งานต่อไปได้

     การกักตัวและการเว้นระยะห่างในช่วงโรคระบาดยังทำให้ผู้คนหันมาเห็นประโยชน์ (Utility) ของเทคโนโลยีอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการใช้โปรแกรมวิดีโอคอล เพื่อพูดคุยหรือดูหนังพร้อมไปกับคนในครอบครัวหรือเพื่อน ซื้อของจำเป็นผ่านช่องทางออนไลน์ หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ แก้เบื่อผ่านยูทูบ ซึ่งงานวิจัยในประเทศอิตาลีที่เก็บข้อมูลในปี ค.ศ. 2020 พบว่า การใช้เทคโนโลยีสื่อสารในช่วงโควิดส่งผลให้คนรู้สึกเบื่อและเหงาลดน้อยลง เพราะพวกเขารับรู้ถึงการได้รับการสนับสนุนทางสังคม (Social Support) จากผู้อื่น

เทคโนโลยีทำให้คนรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้นได้อย่างไร?

     เมื่อกล่าวถึงผลกระทบด้านลบของเทคโนโลยี แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกลายเป็นพื้นที่ออนไลน์ที่ขับเคลื่อนให้คนรู้สึกว้าเหว่ เพราะผู้คนต่างยึดติดกับคนในสังคมออนไลน์มากขึ้น จนทำให้ ‘Real-Life Connection’ หรือการเชื่อมโยงกับผู้อื่นในชีวิตจริงกลายเป็นพื้นที่ที่ว่างเปล่า ขาดความหมาย และไม่ได้รับการเติมเต็มอย่างที่ควร 

     เช่นเดียวกันกับประเด็นของการเสพติด (Addition) หลากหลายงานวิจัยพบว่าการใช้เทคโนโลยีเป็นระยะเวลานานทำให้คนประสบกับความเหงาในระดับที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดเกมหรืออินเทอร์เน็ต ก็สามารถส่งผลให้คนต้องการที่จะสื่อสารกับคนในชีวิตจริงน้อยลง จนส่งผลกระทบต่อทักษะการเข้าสังคม (Social Skills) ในที่สุด

     มากไปกว่านั้น หลายคนยังเห็นด้วยว่า สังคมในโซเชียลมีเดียก่อให้เกิดการเปรียบเทียบ และสร้างมาตรฐานตามอุดมคติ (Ideal) มากกว่าตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะในเรื่องของไลฟ์สไตล์ ความสัมพันธ์ และภาพลักษณ์ที่อยู่บนโลกออนไลน์มักจะดูสมบูรณ์แบบ จนอาจทำให้คนรู้สึกแตกต่างจากคนในสังคมออนไลน์ ซึ่งนักวิชาการจำนวนหนึ่งเชื่อว่า ‘โลกเสมือน’ (Virtual Reality) อย่างเช่น Metaverse จะยิ่งส่งผลทางลบต่อวัยรุ่นมากกว่าเดิม เนื่องจากพวกเขาสามารถสร้างตัวตนในโลกเสมือนที่ดูเหมือนจริงได้ตามต้องการ ซึ่งอาจทำให้เวอร์ชั่นตัวตนในโลกเสมือนนั้นห่างไกลจากเวอร์ชั่นในโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้นไปเรื่อยๆ 

     สองมุมมองต่อเทคโนโลยีที่กล่าวมา ทำให้เราเห็นว่าเทคโนโลยีสามารถช่วยลดความเหงา แต่ในเวลาเดียวกันก็สามารถทำให้คนเรารู้สึกห่างเหินกับคนในสังคมได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่พฤติกรรมการใช้ของมนุษย์ ในมุมมองทางจิตวิทยา ความเหงา (Lonely) ต่างจากการอยู่คนเดียว (Solitude) เนื่องจากการอยู่คนเดียวอธิบายถึงภาวะที่เราแยกห่างจากผู้คน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องรู้สึกโดดเดี่ยว 

      แน่นอนว่า หากเรายึดติดกับเทคโนโลยี อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือมากจนเราไม่สามารถใช้เวลากับตัวเองได้อย่างมีความสุข เมื่อนั้นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า เรากำลังปล่อยให้ผลเสียของเทคโนโลยีเข้ามากระทบกับชีวิตมากเกินไป และควรหันมาให้ความสำคัญต่อการอยู่คนเดียว เพราะถ้าหากเราสามารถใช้เวลากับตัวเองได้อย่างเหมาะสม การอยู่คนเดียวจะทำให้เราค้นพบตัวตนที่แท้จริง เจอความสงบ (Inner Peace) และทำให้เรามีความสุขกับชีวิตมากยิ่งขึ้น

แหล่งที่มา https://www.gqthailand.com/views/article/is-technology-curing-loneliness-or-causing

Add Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *